แบบประกันชีวิต
การประกันภัย มีผู้ให้คำจำกัดความไว้หลายความหมาย เช่น การจัดการทางการเงินที่กระจายความสูญเสียที่ไม่คาดคิด หรือ การจัดการความเสี่ยงโดยเฉลี่ยไปให้ผู้เข้าร่วมรับผิดชอบความเสี่ยงทั้งหมด แต่โดยรวมแล้วการประกันภัย คือ การที่มีฝ่ายหนึ่งสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันแก่อีกฝ่ายหนึ่ง โดยฝ่ายที่เป็นหลักประกันจะรับผิดชอบค่าเสียหายเมื่อเกิดภัย ตามจำนวนและเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ และผู้รับการประกันจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายจากภัยนั้น ๆ ในการนี้จะมีการตกลงกันว่าผู้รับการประกันจะต้องส่งเงินจำนวนหนึ่งให้ฝ่ายที่เป็นหลักประกัน ตามระยะเวลาที่กำหนด เงินนี้เรียกว่า “เบี้ยประกัน”
ประโยชน์ของประกันภัย แบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก คือ
- ประโยชน์ของประกันภัย แบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก คือ
ประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัยหรือผู้ที่จ่ายเบี้ยประกัน
- โดยจะเป็นการสร้างหลักประกันต่อบุคคลนั้น ๆ และอาจะรวมไปถึงครอบครัวหรือผู้ที่ถูกระบุให้เป็นผู้รับผลประโยชน์ เมื่อเกิดภัยแก่ผู้เอาประกัน
- เป็นการออมทรัพย์อย่างหนึ่ง เนื่องจากแผนการประกันบางประเภท เมื่อครบสัญญาที่ตกลงกันไว้ บริษัทจะมีการคืนเงินเบี้ยประกันให้รวมดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนอื่น ๆ ให้แก่ผู้จ่ายเบี้ยประกัน
- จำนวนเงินเบี้ยประกัน สามารถใช้ลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้
- ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม
- เป็นการประกันความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มสดิภาพของสังคม
- เป็นการระดมทุน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
- ประโยชน์ต่อธุรกิจ
- การประกันภัยสามารถเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อธนาคาร
- เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ
ตามหลักวิชาการประกันภัย สามารถแบ่งประเภทของการประกันภัยออกเป็น 3 ประเภท คือ
- การประกันภัยบุคคล ที่ประกันความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคล ได้แก่ ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพ
- การประกันภัยทรัพย์สิน คือ การที่บริษัทประกันภัยทำสัญญาว่าจะชดใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกัน ได้แก่ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยรถยนต์ ประกันการขนส่ง และประกันภัยเบ็ดเตล็ด
- การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมาย คือ การที่บริษัทผู้รับประกันภัยสัญญาว่าจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้จ่ายเบี้ยประกันภัย ได้แก่ ประกันภัยความรับผิดชอบของบุคคลต่อบุคคลอื่น ประกันภัยความรับผิดชอบของผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะต่อบุคคลอื่น และประกันภัยความรับผิดชอบของธุรกิจต่อบุคคลอื่น
หากแบ่งประเภทตามหลักการทางธุรกิจประกันภัย จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ การประกันชีวิต และการประกันภัยอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การประกันชีวิต หรือเรียกว่าการประกันวินาศภัย
แบบประกันชีวิต คือ แบบกรมธรรม์ต่าง ๆ ที่บริษัทประกันแต่ละที่นำเสนอออกมา ซึ่งเป็นการประกอบกันระหว่างผลประโยชน์หลักของการประกันภัย คือการคุ้มครองจากความเสียหายใด ๆ และผลประโยชน์อื่น ๆ เช่น เงินสะสม เงินปันผล หรือเงื่อนไขข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทประกันต่าง ๆ ตัวอย่างข้อเสนอพิเศษเช่น การประกันอุบัติเหตุที่กำหนดเงื่อนไขว่า หากไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมชดเชยภายในระยะเวลา 3 ปี บริษัทประกันจะคืนเบี้ยประกันภัยปีสุดท้ายให้แก่ผู้เอาประกัน เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ที่สนใจทำประกันใหม่สามารถขอข้อมูลและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบบประกันทีมีมากมายตามที่แต่ละบริษัทประกันออกข้อเสนอได้ที่ตัวแทนของบริษัทประกัน และควรจะทำความเข้าใจให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำประกัน เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของแต่ละบุคคลนั่นเอง
(4.12.2560)