วงเงิน บัตร เครดิต

บัตรเครดิตและวงเงินบัตรเครดิต เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจสมัครใช้บัตร

บัตรเครดิตเป็นความสะดวกสบายอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชีวิตคนเมืองในทุกวันนี้ เนื่องจากบัตรเครดิตนั้นทำหน้าที่คล้ายกับสินเชื่อ คือเมื่อผู้ใช้งานทำการรูดบัตรเครดิตเพื่อทำการใช้จ่ายเท่ากับเป็นการยืมเอาเงินของสถาบันการเงินหรือธนาคารนั้นมาใช้ก่อน แล้วเมื่อถึงงวดชำระจึงค่อยทำการชำระเงิน ซึ่งบัตรเครดิตนั้นจะมีการจำกัดจำนวนเงินสูงสุดสำหรับการใช้งานในบัตรแตกต่างกันไป โดยส่วนนี้จะเรียกว่า วงเงินบัตรเครดิต

 

วงเงินบัตรเครดิตโดยทั่วไปแล้ว เจ้าของบัตรสามารถนำไปใช้จ่ายได้ทั่วไปไว้ว่า จะเป็นค่าสาธารณูปโภค, ค่าสินค้า, ค่าเดินทางท่องเที่ยว, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าน้ำมัน, ค่าอาหาร, ค่าเสื้อผ้า ฯลฯ ซึ่งหากผู้ค้ามีเครื่องอีดีเอ็มสำหรับรับชำระด้วยบัตรเครดิต ผู้ใช้บัตรก็จะสามารถเลือกใช้สินเชื่อจากบัตรได้ทันที ดังนั้นการใช้บัตรเครดิตจึงถือเป็นความสะดวกสบายอย่างหนึ่ง เพราะนอกจากจะยังไม่ต้องจ่ายเงินทันทีแล้ว ผู้ให้บัตรก็ยังไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากอีกด้วย

 

นอกจากผู้คนส่วนใหญ่จะทำการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินของตนเองแล้ว การใช้บัตรเครดิตในปัจจุบันยังให้ผลตอบแทนมากกว่าและมีความน่าสนใจยิ่งขึ้นในแง่ของค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือความคาดหมาย เช่น ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ เป็นต้น และยังมีในกรณีที่ห้างร้านหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ทำการตกลงกับบัตรเครดิตเพื่อให้สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ถือบัตร เช่น การผ่อนชำระสินค้า 0% เป็นเวลา 10 เดือน หรือมีส่วนลด ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากผู้ใช้บัตรจะได้รับ "การสะสม แต้ม" ในทุกๆ จำนวนเงินของการใช้งาน โดยแต้มดังกล่าวจะสามารถนำไปแลกเป็นสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้อีก เช่น นำไปแลกเป็นเงินสด, นำไปแลกสินค้าหรือบริการ, นำไปแลกส่วนลดหรือนำไปแลกของรางวัล เป็นต้น

 

ข้อควรรู้เบื้องต้นเมื่อต้องการใช้บัตรเครดิต

ข้อ ควร รู้ เบื้องต้น เมื่อ ต้องการ ใช้ บัตร เครดิต

ดอกเบี้ยบัตรเครดิตและเงื่อนไขอื่นๆ ที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อการชำระยอดหนี้ เนื่องจากบัตรเครดิตนั้นถูกผลิตขึ้นด้วยวัตถุประสงค์สำหรับเป็นตัวช่วยทางการเงินให้กับผู้ถือบัตรซี่ งหากผู้ถือบัตรไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ตามช่วงเวลาที่กำหนดหรือมียอดการใช้จ่ายเกินวงเงินก็จะยิ่งทำให้สภาพคล่องตัวทางการเงินลดลง ซึ่งวงเงินในบัตรเครดิตนั้น นอกจากจะสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยการรูดการ์ดแล้ว ผู้ถือบัตรยังสามารถขอทำรายการถอนเป็นเงินสดได้อีกด้วย โดยวงเงินดังกล่าวจะมีการคำนวณและขึ้นอยู่กับเงินเดือนและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ถือบัตรรวมทั้งเครดิตบูโร ซึ่งหากผู้ถือบัตรมีประวัติในการชำระหนี้ที่ดี ตรงเวลา การจะทำให้มีภาษีดีและได้ รับวงเงินสูงขึ้นได้เช่นกัน ทั้งนี้ยังมีปัจจัยเรื่อของภาระการชำระหนี้อื่นๆ ที่ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารต้องทำการสอบถามและตรวจสอบเพื่อให้มีความแน่ใจถึงสมรรถภาพและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ถือบัตรด้วย

 

ในกรณีที่มีการใช้จ่ายเกินวงเงินบัตรเครดิต หมายถึง การที่ผู้ถือบัตรไม่ได้มีการชำระหนี้ครบตามกำหนดหรือชำระไม่หมด 100% โดยวงเงินของบัตรเครดิตจะถูกนับรวมกับดอกเบี้ย ณ ช่วงเวลานั้นๆ ด้วย ดังนั้นผู้ถือบัตรที่ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดอาจมีโอกาสที่จะใช้จ่ายเกินวงเงินบัตรเครดิตที่ตามปกติแล้วทางธนาคารจะปล่อยให้กู้ในอัตรา 2-3 เท่า ของเงินดือนและมียอดกำหนดให้ชำระหนี้ขั้นต่ำที่อัตรา 10%

 

สำหรับผู้ที่กำลังขออนุมัติบัตรเครดิต ทางธนาคารจะมีการกำหนดคุณสมบัติและเรียกขอตรวจสอบบัญชีสินเชื่อประเภทต่างๆ ของผู้สมัครเพื่อนำมาวิเคราะห์และใช้เป็นหลักฐานในการอ้างอิงพร้อมทั้งเป็นข้อมูลในการคำนวณความสามารถชำระหนี้ โดยหากทางธนาคารหรือสถาบันการเงินพบว่าเครดิตของผู้สมัครก่อนหน้านี้มีการผิดนัดชำระเกิน 60 วัน (หรือประมาณ 2 เดือน) ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระที่ผู้สมัครมีต่อธนาคารจึงอยู่ในอัตราที่สูง ส่งผลให้บัตรเครดิตและวงเงินบัตรเครดิตที่ร้องขอมักไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งในกรณีนี้ ผู้สมัครบัตรสามารถแก้ไขได้ด้วยการเริ่มชำระเงินบัตรเครดิตในอัตราที่สูงขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงสมรรถภาพในการชำระหนี้

บัตรเครดิตถือเป็นการกู้เงินชนิดหนึ่ง ดังนั้นผู้ที่้ต้องการสมัครจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและเตรียมตัวให้พร้อม มีแผนการการใช้จ่ายที่รัดกุมเพื่อป้องกันการขาดสภาพคล่องและการเป็นหนี้โดยใช่เหตุ เนื่องจากความสะดวกสบายของการใช้เครดิตนั้น ต้องแลกมาด้วยดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ ผู้ขอกู้ควรรอบคอบและมีความรู้เพียงพอก่อนทำการสมัคร

 

 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บัตรเครดิต

 

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ

 



Siirry alkuun