การประกันภัยรถยนต์ คือการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ การประกันภัยรถยนต์ ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า Car Insurance, Vehicle Insurance, Auto Insurance หรือ Motor Insurance การประกันภัยรถยนต์ ภาษาอังกฤษ ตามคำต่างๆ ที่กล่าวมา ล้วนมีความหมายเหมือนกันทั้งสิ้น
หมายความถึง การประกันภัยรถยนต์ที่ถูกบังคับโดยกฎหมาย เพื่อความคุ้มครองต่อความสูญเสียของชีวิต ร่างกายบุคคล ผู้ประสบภัยจากรถยนต์ ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีกฎหมายที่เรียกว่า"พระราชบัญญัติ" คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (พรบ.) เพื่อให้ประชาชน ผู้ประสบภัย ได้รับความคุ้มครอง และการชดใช้ค่าเสียหายที่แน่นอน รวดเร็ว และเป็นธรรม
หมายความถึง การประกันภัยที่เกิดขึ้น โดยความสมัครใจของ เจ้าของรถยนต์ ผู้ครอบครองรถยนต์หรือผู้ขับขี่รถยนต์โดยไม่ได้เกิดจากการถูกบังคับโดยกฎหมาย แต่อย่างใด
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแบบใหม่ แบ่งออกเป็น 2 แบบ
2.1 กรมธรรม์แบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ (Un-Named Driver) เป็นกรมธรรม์แบบเดิมที่คุ้มครองผู้ขับขี่คนใดก็ได้ที่ผู้เอาประกันภัย ยินยอมให้ขับขี่เสมือนหนึ่งเป็น ผู้เอาประกันภัย
2.2 กรมธรรม์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ (Named Driver) เป็นกรมธรรม์แบบใหม่ที่นำเอาอายุผู้ขับขี่มาเป็นองค์ประกอบในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย และคุ้มครองแต่ผู้เอาประกันภัยต้องร่วมรับผิดต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้นของอุบัติเหตุแต่ละครั้งด้วย กรมธรรม์แบบนี้ผู้เอาประกันภัยต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ใช้รถส่วนบุคคล และสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ ไม่เกิน 2 คน
ประเภทของกรมธรรม์ และความคุ้มครอง การประกันภัยรถยนต์ มีความคุ้มครองให้เลือก 5 ประเภท คือ
ประเภท 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด คือ
ประเภท 2 ผู้เอาประกันภัยประเภทนี้ จะได้รับความคุ้มครอง คือ
ประเภท 3 ซึ่งเป็นประเภทที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
ประเภท 4 ซึ่งเป็นประเภทที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินบุคคลภายนอก
ประเภท 5 ผู้เอาประกันภัยประเภทนี้ จะได้รับความคุ้มครอง
ในปัจจุบันนั้นประเภทของประกันภัยรถยนต์นั้นได้มีการเพิ่มขึ้นอีกหลายรูปแบบด้วยกัน โดยหลักแล้วก็มาจาก ประเภทของประกันภัยทั้ง 5 ประเภท ประเภทของประกันภัยที่เกิดขึ้น บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่จะใช้คำว่า ประกันภัยรถยนต์ 2+ และ ประกันภัยรถยนต์ 3 +
(18.5.2560)
แชร์ไปยัง