ประกันชีวิต คือ

ประกันชีวิต คือ

ประกันชีวิต คือ หนึ่งวิธีที่ช่วยบรรเทาความเสี่ยงและสามารถมอบผลประโยชน์ในอนาคตได้ ถึงแม้ว่าชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและมีโอกาสจะเกิดความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ทุกเมื่อ โดยที่เราไม่สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายไว้ว่า ชื่อสัญญาประกันภัยชนิดหนึ่ง ซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับประกันภัย(บริษัทประกันภัย) ตกลงจะใช้เงินจํานวนหนึ่งให้แก่ผู้รับประโยชน์โดยอาศัยความทรงชีพ หรือมรณะของบุคคลคนหนึ่ง และในการนี้ผู้เอาประกันภัย(บุคคลทั่วไป)ตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่า เบี้ยประกันภัย ให้แก่ผู้รับประกันภัย  กล่าวได้ว่า ความหมายของประกันชีวิต คือ การกระจายความเสี่ยงในชีวิตของผู้เอาประกัน ด้วยการซื้อกรรธรรม์จากบริษัทประกันภัย โดยผู้เอาประกันก็จะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันให้บริษัทประกันภัยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ในระหว่างนั้นหากเกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันตามเงื่อนไขกรรมธรรม์ บริษัทประกันภัยก็จะจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้เอาประกันตามที่ตกลงกันไว้

บริษัทประกันแต่ละแห่งจะมีรูปแบบการประกันต่างกันไปตามแต่ความต้องการของลูกค้า เช่น ให้การคุ้มครองผู้สูงอายุ, ให้การคุ้มครองสำหรับโรคร้ายแรง, ให้การคุ้มครองขณะเดินทาง ฯลฯ แต่โดยพื้นฐานแล้วมีอยู่ 4 รูปแบบดังนี้

 

คือ บริษัทจะให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันตลอดชีพ หากผู้เอาประกันมีอายุจนถึง 99 ปี ผู้เอาประกันก็จะได้รับเงินตามที่กรรธรรม์กำหนดไว้ แต่หากผู้เอาประกันเสียชีวิตก่อนเงินก้อนนั้นจะตกเป็นของผู้รับผลประโยชน์ (ลูกหลานหรือบุคคลที่ผู้เอาประกันระบุไว้)

คือ การคุ้มครองแบบมีกำหนดระยะเวลาสัญญา โดยหากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา ผู้เอาประกันก็จะได้รับเงินไป แต่หากผู้เอาประกันเสียชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา เงินก้อนนั้นจะตกเป็นของผู้รับผลประโยชน์(ลูกหลานหรือบุคคลที่ผู้เอาประกันระบุไว้) เพราะฉะนั้นการคุ้มครองแบบนี้ไม่ว่าผู้เอาประกันจะเสียชีวิตหรือไม่ในกำหนดสัญญา ก็จะได้รับเงินคืน

คือ การคุ้มครองแบบมีการกำหนดระยะเวลาสัญญา แต่บริษัทจะจ่ายเงินให้ในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

คือ การจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกันเป็นจำนวนเท่ากันทุกเดือนหลังจากที่ผู้เอาประกันเกษียณที่อายุ 55 หรือ 60 ปี ไปจนครบกำหนดสัญญา

 

ประกันชีวิต คือ

หลังจากพิจารณากรรธรรม์ทั้ง 4 รูปแบบแล้วก็สามารถสรุปได้ว่า การทำประกันชีวิตนั้น ไม่ได้คุ้มครองเฉพาะกรณีเสียชีวิต หรือคุ้มครองโรคร้ายเท่านั้น แต่ประกันชีวิตคืออีกหนึ่งช่องทางในการออมทรัพย์ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงควรรีบทำประกันชีวิตให้เร็วเท่าไหร่ได้ยิ่งดี และควรศึกษาลักษณะกรรธรรม์รูปแบบต่างๆ และการจ่ายเบี้ยประกันให้เหมาะกับตนเองด้วย

 

(15.5.2560)

 

 

 

 

 



Siirry alkuun