สมัครบัตรเครดิตไม่มีสลิปเงินเดือน
บัตรเครดิตนั้นกลายมาเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายๆจะต้องมีไว้เพื่อเป็นเงินสำรองหรือเพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายต่างๆ จึงทำให้หลายๆคนอยากที่จะสมัครไว้เพื่อเป็นเงินสำรอง และโดยทั่วไป สิ่งที่จำเป็นประการหนึ่งสำหรับสมัครบัตรเครดิตส่วนใหญ่คือเงินเดือน พร้อมหลักฐานการได้รับเงินเดือน ไม่ว่าจะเป็น
- สลิปเงินเดือน
- เอกสารการถูกหัก ณ ที่จ่าย เป็นต้น
และนอกจากนั้นก็ยังจะมีเอกสารทั่วๆไปเพื่อแสดงตัวตน ได้แก่
- เอกสารระบุตัวบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรช้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส
- ใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล
และจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
แล้วคุณมีรายได้ประเภทไหน?
คนที่มีรายได้ไม่ประจำหรือไม่มีสลิปเงินเดือน ทําบัตรเครดิตได้อย่างไร ในบทความนี้เราจะมาแบ่งประเภทกันค่ะว่า คนที่มีรายได้ที่ไม่ได้เป็นงานประจำจะต้องทำอย่างไรถึงจะสมัครบัตรเครดิต ไม่มีสลิปเงินเดือนได้
- มีรายได้ประจำแต่ไม่มีสลิปเงินเดือน
คือผู้ที่มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอในทุกๆเดือนแต่ไม่มีหลักฐานจากทางบริษัทเพื่อมารับรองรายได้ แบบนี้ผู้สมัครจะต้องสามารถแสดงเอกสารซึ่งแสดงถึงที่มาของรายได้และความสม่ำเสมอของรายได้ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าจะสามารถชำระหนี้ได้
โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็อาจจะเป็น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ค้าขายทั่วไป ผู้มีอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ โดยเอกสารที่มักจะต้องใช้เพื่อทําบัตรเครดิต ไม่มีสลิปเงินเดือน นั้น โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้แจ้งไว้ว่า ผู้สมัครต้องใช้เอกสารดังต่อไปนี้
- สเตทเม้นส่วนตัว 6 เดือนย้อนหลัง
- หนังสือรับรองการหักภาษี (ทวิ 50) เพื่อแสดงรายได้รวมของปีล่าสุด
*ทั้งนี้แต่ละสถาบันก็จะมีการขอเอกสารที่แตกต่างออกไป
- เจ้าของกิจการ
ผู้ที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองก็มักจะไม่มีไม่มีสลิปเงินเดือน ทําบัตรเครดิต การที่แสดงที่มาของรายได้นั้น สามารถใช้เอกสารได้ดังต่อไปนี้
- สเตทเม้นส่วนตัว 6 เดือนย้อนหลัง
- สเตทเม้นของบัญชีที่ใช้ในธุรกิจ 6 เดือนย้อนหลัง
- สำเนาการจดทะเบียนพาณิชย์หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
*ทั้งนี้แต่ละสถาบันก็จะมีการขอเอกสารที่แตกต่างออกไป
เทคนิคการยื่นเอกสารสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ
เมื่อเราเตรียมรายละเอียดเอกสารต่างๆที่ตรงกับอาชีพและแหล่งที่มาของรายได้เราแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปจะเป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้การ สมัครบัตรเครดิต ไม่มีสลิปเงินเดือน นั้นมีโอกาสที่จะได้รับอนุมัตสูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานอิสระซึ่งไม่มีรายได้ที่แน่นอน ทำให้เป็นเรื่องยากที่ทางธนาคารจะสามารถกำหนดวงเงินที่เหมาะสมได้ ฉะนั้นจึงมีอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นั่นก็คือการใช้ “เงินค้ำประกัน” มาเป็นตัวรับรอง
เงินค้ำประกันคือ การที่เรานำเงินออมไปฝากไว้ในกับทางธนาคารไม่ว่าจะเปนการฝากออมทรัพย์ ฝากประจำ 1ปี หรือแล้วแต่ถามที่เราต้องการ โดยวงเงินนั้นจะต้องไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำของธนาคารและเท่ากับวงเงินที่เราต้องใช้บัตรเครดิต ประโยชน์ที่จะได้จากการทำเช่นนี้คือ
- ธนาคารอาจจะอนุมัติได้รวดเร็วขึ้น
- สามารถเพิ่มวงเงินเครดิตได้ โดยการเพิ่มเงินเข้าไปในบัญชีนั้น
ทางสถาบันการเงินผู้ออกบัตรอาจกำหนดให้บัญชีที่นำมาค้ำประกัน เป็นบัญชีที่คุณนำเงิน 15,000 บาทเป็นอย่างต่ำมาฝากเข้าทุกเดือน ในบางราย อาจอนุญาตให้ผู้สมัครนำเงินสดมาฝากที่บัญชีบัตรเครดิตได้เลย ไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่ผู้ใช้บัตรเครดิตประเภทนี้ไม่สามารถชำระหนี้ตามข้อตกลงได้ เงินที่ใช้ค้ำประกันทุกรูปแบบจะตกเป็นของสถาบันทางการเงินผู้ออกบัตรทันที
ข้อจำกัดของการ สมัครบัตรเครดิตไม่มีสลิปเงินเดือน
แม้หลักฐานที่ใช้และวิธีการสมัครดังกล่าวนี้จะง่ายกว่า รวมถึงการตรวจสอบประวัติหนี้สินจากเครดิตบูโรอาจเข้มงวดน้อยกว่าบริการบัตรเครดิตอื่นๆ (บางรายอาจพิจารณาเพียงเครดิตบูโรในปัจจุบัน หากผู้สมัครเคยมีหนี้เครดิตบูโรก่อนหน้าก็อาจจะยังสมัครได้) ก็ตาม การใช้บัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำประกันก็ยังมีข้อจำกัด เช่น
- ผู้ถือบัตรไม่สามารถใช้เงินที่นำไปค้ำประกันตัวบัตรได้ นอกจากจะยกเลิกบริการบัตรเครดิตนั้นเสียก่อน
- กระบวนการเพิ่มวงเงินนั้นยุ่งยาก อาจทำได้ด้วยการเพิ่มเงินค้ำประกัน หรือสำหรับบางรายอาจทำไม่ได้เลย
- หากต้องการทำเรื่องยกเลิกบริการเพื่อขอเงินค้ำคืน อาจต้องไปดำเนินการถึงตัวธนาคาร หรือสถาบันการเงินสาขาที่ผู้สมัครเปิดบัญชีเท่านั้น หากสถานที่ที่คุณอาศัยอยู่หรือทำงานในปัจจุบัน กับธนาคารสาขาที่คุณไปสมัครใช้บริการบัตรเครดิตอยู่คนละจังหวัดกัน คุณก็ต้องเดินทางไปที่จังหวัดของธนาคารสาขานั้น ไม่สามารถทำเรื่องที่สาขาอื่นได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความยุ่งยากถึงขั้นที่ผลเสียมากกว่าผลดี เช่น เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาจเสียประโยชน์ถึงขั้นมีหนี้สินหรือลำบากกว่าการใช้บริการบัญชีบัตรเดบิตทั่วไปได้ในบางกรณี
ไม่มีสลิปเงินเดือนทําบัตรเครดิตได้ไหม
คำตอบคือ ได้ เนื่องจากบัตรเครดิตประเภทใช้เงินฝากค้ำประกันนี้ไม่พิจารณาเงินเดือนของผู้สมัคร ไม่จำเป็นต้องใช้สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการว่าจ้างใดๆ ข้อจำกัดจึงมาในรูปแบบของวงเงินที่น้อยกว่า หรือหลักฐานแสดงเสถียรภาพทางการเงินแบบอื่น
เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมเอกสารอื่นๆที่จะสามารถใช้ได้อย่างที่กล่าวไปด้านบนนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะสามารถชำระหนี้ได้จริง และมีรายได้ที่สม่ำเสมอเท่านี้เราก็สามารถไปสมัครได้อย่างมั่นใจ
นอกจากนั้นต้องเปรียบเทียบข้อเสนอจากแต่ละสถาบันด้วยว่ามีอะไรที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเราบ้าง ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลบัตรเครดิตไว้ในบทความนี้แล้ว
โดยสรุปแล้ว บริการบัตรเครดิตมีหลายประเภท ครอบคลุมผู้ใช้บริการหลายรูปแบบ ด้วยประโยชน์และเงื่อนไขบางประการ หากพิจารณา ชั่งผลดีผลเสียของแต่ละอย่างแล้ว คุณก็สามารถมีบัตรเครดิตที่อำนวยความสะดวกเข้ากับวิถีชีวิตหรือความต้องการลงทุนของคุณได้ไม่แตกต่างกับพนักงานประจำที่มีรายได้สม่ำเสมอ
ที่ไหนรับทำบัตรเครดิต ไม่มีสลิปเงินเดือน
หลายๆสถาบันได้มีข้อเสนอให้กับผู้ที่มีรายได้ไม่ประจำหรือไม่สลิปเงินเดือนแล้วหรือเป็นผู้ที่ทำอาชีพฟรีแลนซ์ต่างๆ เช่น บัตรเครดิตกสิกรไทย ธนาคารธนชาติ ธนาคารTMB และแถมข้อมูลนี้ให้คือทางกรุงศรีก็มีบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาอีกด้วย
โดยนอกจากบัตรเครดิตแล้วอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือบัตรเงินสด ไม่ว่าจะเป็นบัตรอิออน บัตรเฟริสช้อยส์ บัตรเงินสดKTC และบัตรเงินสดกสิกร ซึ่งเราได้รวบรวมสิ่งที่ควรรู้เดี่ยวกับบัตรเงินสดไว้ในบทความนี้แล้ว
ทําบัตรเครดิต ไม่มีสลิปเงินเดือน เตรียมตัวยังไงให้ได้รับอนุมัติ?
ก่อนที่จะสมัครนั้นควรวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนเพื่อที่จะให้เวลาตัวเองในการเตรียมเอกสารและสร้างประวัติการเงินที่ดีๆ สิ่งที่คุณสามารถทำได้นั้นมีดังต่อไปนี้
- เปิดบัญชีไว้และฝากเงินสม่ำเสมอ
เมื่อเรารู้แล้วว่าอยากที่จะสมัครกับธนาคารไหน ให้วางแผนล่วงหน้าไว้เลยโดยการเปิดบัญชีและเริ่มนำเงินเข้าไปฝากเป็นประจำ
- เสียภาษีตรงตามกำหนด
การแสดงความรับผิดชอบในการจ่ายภาษีจะทำให้ทางธนาคารเห็นว่าเรามีความรับผิดชอบมากและมีความซื่อสัตย์ และมีอำนาจในการชำระสม่ำเสมอ
- ควบคุมวิธีการใช้จ่าย
เนื่องจากว่าเราต้องโชว์ bank statement ซึ่งจะทำให้ทางธนาคารเห็นวิธีการจับจ่ายของเรา ว่ามีเหตุมีผลหรือไม่ เพราะฉะนั้นเราคอยควบคุมการใช้จ่ายให้ดี เนื่องจากมันเป็นหลักฐานชั้นดีที่แสดงถึงการใข้จ่ายของเรา
- มีวินัยกับการชำระหนี้
หากเรามีหนี้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ก็ต้องคอยชำระให้สม่ำเสมอ อย่าให้ขาด
แก้ไขเมื่อ 08/04/2020 | เผยแพร่เมื่อ 25/05/2017
โดย Apinya Saeueng
