ประกันสุขภาพเด็ก

ประกันสุขภาพเด็ก จำเป็นต้องมีจริงเหรอ

เมื่อคุณเป็นคุณพ่อคุณแม่ แน่นอนความรักความห่วงใยคุณต้องมีให้ลูกน้อยของคุณอย่างเต็มเปี่ยม แต่ไม่ว่าเราจะดูแลลูกน้อยของเราอย่างดีแค่ไหน เราก็ไม่สามารถรับประกันได้เต็มร้อยว่าลูกน้อยของเราจะปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุต่างๆได้ ยิ่งในเด็กเล็ก ภูมิคุ้มกันโรคยังไม่มากพอ โอกาสที่จะเจ็บป่วยทั้งจากที่เกิดขึ้นเองหรือได้รับมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวยิ่งมีมากขึ้น  และเราต้องยอมรับว่า การดูแลรักษาเด็กเล็กนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องก็สูงเสียด้วย เด็กน้อยแม้ต้องนอนโรงพยาบาลเพียงหนึ่งคืน ก็อาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายมากมายที่ทำเอาพ่อแม่ต้องกุมขมับ

 

หนึ่งในทางเลือกที่หลายครอบครัวใช้กันนั่นก็คือ การทำประกันสุขภาพเด็ก ซึ่งมักเป็นเรื่องถกถียงกันอยู่เสมอว่า จำเป็นต้นทำด้วยเหรอ แน่นอนไม่มีใครอยากให้เกิดอันตรายใดๆแก่ลูกของตน แต่การทำประกันสุขภาพนั้นถือเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบาอยากเกิดความจำเป็นขึ้นมาจริงๆ บางบ้านจ่ายค่าเบี้ยประกันหลักหมื่นทุกปี แต่ลูกแทบไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล แต่พวกเค้าจะรู้สึกอุ่นใจและสบายใจตลอดเวลาว่า หากลูกน้อยของตนเกิดเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุขึ้นมา จะมีผู้คุ้มครองและดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายให้ บางบ้านลูกป่วยนอนโรงพยาบาลจากการเจ็บป่วยแค่เพียงครั้งเดียว ก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปแล้วด้วยซ้ำ

ประกันเด็ก

ประกันเด็ก แตกต่างอย่างไร

ประกันสุขภาพ คือ การทำประกันที่บริษัทประกันตกลงจะจ่ายชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลของผู้ทำประกัน ไม่ว่าการรักษาพยาบาลนั้นจะเกิดจากการเจ็บป่วยด้วยโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยการคุ้มครองนั้นสามารถเลือกได้ทั้งแบบคนไข้ในหรือแบบคนไข้นอกอย่างเดียว

 

แบบคนไข้นอกคือ เวลาพาลูกไปหาหมอที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวก็สามารถนำใบเสร็จพร้อมใบรับรองแพทย์ไปเบิกประกันได้ โดยที่เราอาจจะไม่ต้องจ่ายเพิ่มหรือจ่ายเพิ่มบ้างหากเกินวงเงินที่เราซื้อไว้ ส่วนความคุ้มครองแบบคนไข้ในนั้น จะประกอบไปด้วยค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการทางการแพทย์ทั่วๆไป ค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหลังการเกิดอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายสำหรับแพทย์เยี่ยมไข้ โดยการเข้ารักษาตัวแต่ละครั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับวงเงินประกันภัยว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้มากน้อยแค่ไหน

 

โดยปกติแล้ว เบี้ยประกันเด็ก จะแบ่งตามช่วงอายุ เช่น เด็กแรกเกิดถึง 5 ปี (เด็กเล็ก) และเด็ก 6 – 15 ปี (เด็กโต) เป็นต้น ซึ่งในเด็กเล็ก ค่าเบี้ยประกันสุขภาพจะแพงกว่าช่วงเด็กโต ทั้งนี้เพราะในเด็กเล็กร่างการยังสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่เต็มที่ เด็กเล็กจึงมีโอกาสป่วยได้มากกว่าเด็กโต ในเกิดแรกเกิด ร่างการเด็กต้องมีการปรับตัวอย่างมาก อาจเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย เด็กวัยอนุบาล เด็กมักรับเชื่อโรคได้ง่ายจากการไปโรงเรียนหรือแม้แต่จากพี่ที่โตกว่าหรือจากผู้ใหญ่ที่อยู่รอบตัว  เมื่อเด็กโตขึ้น ภูมิคุ้มกันมากขึ้น โอกาสเจ็บป่วยจากการรับเชื้อโรคจะน้อยลง แต่ขนาดเดียวกันอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการเกิดอุบัติเหตุจากการเล่นซนตามประสาเด็ก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องไกลด้วยเลย ที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองลูกของคุณ

 

โดยทั่วไป ค่าเบี้ยประกันสุขภาพเด็กจะเริ่มต้นที่ 8,000 - 9,000 บาท ไปจนถึง 50,000 บาทต่อปีเลยก็เป็นได้ ซึ่งความแตกต่างก็ขึ้นอยู่กับราคาห้องพัก ถ้าเราเลือกเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่ค่าห้องไม่สูงมากนัก ค่าเบี้ยประกันก็จะมีราคาลดหลั่นลงมาตามลำดับ

ประกัน สุขภาพ ลูก น้อย

ประกันสุขภาพลูกน้อย มีแบบไหนบ้าง

เมื่อเราเห็นความสำคัญและตัดสินใจจะเลือกทำประกันสุขภาพลูกน้อยของเราแล้วนั้น ต่อไปก็คือการศึกษาว่าประกันมีแบบใดบ้าง และแบบไหนที่ตรงกับความต้องการของคุณ

  1. ประกันสุขภาพเพียงอย่างเดียว หรือที่เราเรียกกันว่า เบี้ยจ่ายทิ้ง ซึ่งก็คือการที่เราจ่ายค่าเบี้ยเป็นรายเดือนหรือรายปี หากกรณีเจ็บป่วยรักษาพยาบาล ทางประกันจะจ่ายชดเชยค่าใช้จ่ายให้ ไม่ว่าการรักษาพยาบาลนั้นจะเกิดจากการเจ็บป่วยด้วยโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยจะมีทั้งแบบคนไข้ในหรือแบบคนไข้นอกเพียงอย่างเดียว หากในปีนั้นไม่ได้มีการเคลมการรักษาพยาบาล การใช้สิทธิก็จะหมดไป โดยประกันประเภทนี้จะมีเพียงบางบริษัทเท่านั้นที่รับทำ ความแตกต่างของราคาเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับราคาโรงพยาบาลที่คุณเลือกเข้ารักษาพยาบาลเป็นหลัก หากค่าห้องค่ารักษาค่อนข้างสูง ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงตามคะ  ยกตัวอย่างเช่น ประกันสุขภาพของบูพา ทิพยประกันภัย เทเวศร์ประกันภัย ไทยวิวัฒน์ เป็นต้น (สังเกตง่ายๆ ส่วนมากจะเป็นบริษัทที่ชื่อลงท้ายตัว ประกันภัย ไม่ใช่ประกันชีวิต)
    1. ประกันสุขภาพ แผนโอปอล บริษัทเอ็ทน่าประกันภัย (เดิมคือ บูพา ประกันภัย) สำหรับเด็กแรกเกิดอายุ 15 วัน ขึ้นไป
    2. ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพอุ่นใจ บริษัท วิริยะประกันภัย  สำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป
    3. ประกัน บีแอลเอ รักษ์สุขภาพ กรุงเทพประกันภัย สำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป

 

  1. ประกันสุขภาพ ที่พ่วงจากประกันหลัก ซึ่งก็คือประกันชีวิต อันนี้เป็นรูปแบบของประกันสุขภาพที่พบเห็นได้บ่อย คือทางเราต้องมีประกันชีวิตกับทางบริษัทก่อนจึงจะสามารถพ่วงการทำประกันสุขภาพไปด้วยได้ ถือเป็นเบี้ยจ่ายทิ้งเช่นกัน โดยภาพรวมเบี้ยประกันจะดูราคาสูงกว่า แต่ถ้าแตกรายละเอียดดูจะพบว่าประกอบไปด้วย 2 ส่วนือ ประกันชีวิตส่วนหนึ่ง และประกันสุขภาพอีกส่วนหนึ่ง โดยราคาของแต่ละส่วนก็จะขึ้นอยู่กับการเลือกของเราเอง ส่วนของการประกันชีวิตจะขึ้นอยู่กับอายุ เพศ สุขภาพ และวงเงินความคุ้มครอง ส่วนประกันสุขภาพ ก็จะขึ้นกับค่าห้องค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลที่เราเลือกใช้ ยกตัวอย่างเช่น ประกันสุขภาพของเอไอเอ กรุงไทยแอกซ่า เป็นต้น 
    1. ประกัน iHealth ของกรุงไทย-แอกซ่า สำหรับเด็กแรกเกิด
    2. ประกันสุขภาพเด็กเล็ก 0 – 5 ปี เมืองไทยประกันชีวิต
    3. ประกันสุขภาพ iCare กรุงไทย-แอกซ่า สำหรับเด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไป
    4. แผนประกัน เอช แอนด์ เอส พลัส โกลด์ เอไอเอประกันชีวิต สำหรับเด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไป

 

  1. ประกันควบการลงทุน เปรียบเสมือนการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง โดยการที่พ่อแม่ซื้อประกันชีวิต(ซึ่งในกรณีนี้จะเป็นประกันชีวิตที่พ่วงประกันสุขภาพไปด้วยเลย)ให้แก่ลูก ซึ่งเงินก้อนนั้น ทางบริษัทประกันชีวิตจะจัดสรรนำไปลงทุนในหน่วยลงทุนต่างๆเพื่อให้เกิดดอกผล คล้ายกับการสะสมทรัพย์ แต่มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในแง่ของการประกันชีวิตและประกันสุขภาพและอุบัติเหตุเพิ่มเข้าไปด้วย หลายท่านให้ความเห็นว่า การลงทุนประเภทนี้จะเห็นผลจริงในระยะยาว จึงมักทำให้เด็กตั้งแต่แรกเกิด เพื่อเป็นทุนการศึกษาหรือเป็นทุนตั้งตัวให้ลูกเมื่อเรียนจบ ขนาดเดียวกันลูกก็ได้รับความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพไปพร้อมๆกัน ถือหน่วยลงทุนค่อนข้างสูงแต่ให้ผลคอบแทนที่คุ้มค่าเลยทีเดียวคะ ยกตัวอย่างบริษัทประกันที่นำเสนอหน่วยลงทุนรูปแบบนี้ ได้แก่ แผนยูนิต ลิงค์ ของเอไอเอประกันชีวิต เป็นต้น  
    1. แผนประกัน ยูนิต ลิ้ง บริษัท เอไอเอ ประกันชีวิต สำหรับเด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไป
    2. แผน iInvest กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต สำหรับอายุ 1 เดือนขึ้นไป

ประกัน สุขภาพ ให้ ลูก รัก ราคา พิเศษ

ประกันสุขภาพให้ลูกรักราคาพิเศษ

หากถามว่าประกันสุขภาพให้ลูกรักราคาพิเศษของที่ไหนให้ราคาดีที่สุด คงตอบยากคะ เพราะแต่ละที่ก็นำเสนอแผนที่แตกต่างกัน อีกทั้งการเลือกวงเงินประกันและเลือกโรงพยาบาลก็มีผลต่อราคาเบี้ยประกันด้วยเช่นกัน ดังนั้นการจะเลือกทำประกันแบบใดกับที่ใดนั้น ควรต้องมีการเปรียบเทียบ โดยให้เงื่อนไขคล้ายคลึงกัน เช่นระบุทุนคุ้มครองที่เท่ากัน โรงพยาบาลเดียวกัน สิทธิประโยชน์ค่าห้องค่ารักษาพยาบาลค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆที่ใกล้เคียงกัน เพื่อที่จะเปรียบเทียบตัวเลขเบี้ยประกันกันได้ เลือกตัวแทนที่รู้จักหรือมีคนแนะนำว่าดีก็มีส่วนมาก ในแง่ของการบริการ การติดตามผลการเบิกจ่าย และการแนะนำแนวทางที่ให้ประโยชน์มากกว่าจะโดยเอาเปรียบ หากเรามีโรงพยาบาลที่ใช้อยู่เป็นประจำ อาจนำตัวเลขใบเสร็จค่าห้องและค่ารักษาพยาบาลคราวก่อนมาให้ทางบริษัทประกันได้พิจารณาดู จะได้รู้ว่าโดยประมาณแล้วค่าเบี้ยประกันเราน่าจะอยู่ประมาณเท่าไหร่ดี

 

ประกันเด็กแรกเกิด

ประกันสุขภาพโดยทั่วไป หลายบริษัทเริ่มทำเมื่อเด็กเข้าสู่ช่วงอายุเด็กโตคือ 5 หรือ 6 ขวบ แต่ก็มีหลายบริษัทที่เน้นประกันสุขภาพเด็กเป็นจุดขาย เริ่มรับทำประกันสุขภาพเด็กตั้งแต่เด็กอายุ 15 วัน (ประกันของเอ็ทน่า) หรือ 1 เดือน (เช่น ประกันของ เอไอเอ, กรุงไทย-แอกซ่า)  ราคาประกันของเด็กเล็ก แน่นอนว่าจะสูงกว่าเด็กโต เพราะเด็กเล็กมีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าเนื่องจากภูมิคุ้มกันยังมีไม่เต็มที่ และต้องใช้แพทย์เฉพาะทาง อีกทั้งยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

โดยส่วนมากแล้ว การประกันสุขภาพที่เป็นประกันเด็กแรกเกิดที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีการตั้งครรภ์และคลอดบุตรนั้น จะทำที่ต้องคุณแม่เป็นหลัก และจะระบุระยะเวลารอคอย เช่นตอนทำประกันยังไม่ตั้งครรภ์ หรือต้องเกิน 3 เดือนก่อนจึงตั้งครรภ์ได้ เป็นต้น

 

 

 

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ



Siirry alkuun