ค่าส่งพัสดุและบริการไปรษณีย์ที่น่ารู้
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไปรษณีย์และการส่งรับพัสดุเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน แม้บางคนอาจจะได้รับจดหมายหรือสิ่งของไม่บ่อยเท่าคนอื่น แต่ก็ไม่มีใครไม่เคยข้องเกี่ยวกับไปรษณีย์อย่างแน่นอน โดยปกติ ในฐานะผู้ส่ง เรามักจะนำสิ่งของที่ต้องการส่งไปยังที่ทำการไปรษณีย์แล้วปล่อยให้เจ้าหน้าที่จัดการทุกสิ่งที่เหลือ แต่การทราบรูปแบบและราคาค่าส่งพัสดุชนิดต่างๆ ก่อนไปใช้บริการอาจก่อให้เกิดประโยชน์บางประการที่น่าสนใจก็เป็นได้
โดยทั่วไป สิ่งที่มีผลต่อราคาค่าส่งพัสดุทางไปรษณีย์ ได้แก่ น้ำหนักของพัสดุ ขนาดความกว้าง ยาว หนาของพัสดุ บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ จุดหมายปลายทาง และความเร่งด่วนในการนำส่ง รายละเอียดบริการหลักๆ ที่ผู้คนนิยมใช้ส่งภายในประเทศไทย มีดังนี้
1. ไปรษณีย์ธรรมดา เป็นบริการขนส่งเอกสารที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม แยกประเภทย่อยตามน้ำหนักและชนิดของเอกสารอีก ได้แก่
a) ไปรษณียบัตร หรือโปสการ์ด เป็นบริการนำส่งโปสการ์ด มีข้อกำหนดสำคัญๆ คือกระดาษที่ใช้ไม่หนาไปกว่า 180 แกรม ขนาดไม่เกิน 10.5 x 14.8 เซนติเมตร เนื้อความในจดหมายไม่เป็นความลับที่ต้องปกปิด มีพื้นที่สำหรับผู้เขียนจ่าหน้าซองและที่ว่างสำหรับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เพื่อบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติม และมีน้ำหนักไม่เกิน 5 กรัม ราคาค่าส่งอยู่ที่ 2 บาท ไม่จำเป็นต้องใส่ซองจดหมายเพื่อนำส่ง
b) จดหมาย สำหรับเอกสารที่บรรจุใส่ซองหรือกล่องที่ปิดสนิท คิดอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 3 บาทสำหรับเอกสารน้ำหนัก 20 กรัม
c) สิ่งตีพิมพ์ สำหรับนิตยสาร วารสาร หนังสือ พร้อมซีดีหรือสื่อบันทึกภาพ เสียง วีดิโอที่เกี่ยวข้องกับสิ่งพิมพ์นั้น (ไม่อนุญาตให้บรรจุสิ่งอื่นเพิ่มเติมนอกจากนี้) อัตราค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 3 บาท สำหรับสิ่งพิมพ์น้ำหนัก 50 กรัม
2. พัสดุไปรษณีย์ในประเทศ เป็นบริการขนส่งวัตถุที่มีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม จำกัดความยาวของแต่ละด้านไม่เกิน 150 เซนติเมตร (ด้านที่ยาวที่สุดไม่เกิน 300 เซนติเมตร) มีลักษณะบรรจุใส่กล่องหรือห่อเป็นม้วน อัตราค่านำส่งแตกต่างตามสถานที่จัดส่ง สถานที่ปลายทาง และประเภทของบริการว่าเป็นพัสดุธรรมดาหรือเป็นพัสดุส่งด่วน (EMS) โดยหากเป็นพัสดุไปรษณีย์ธรรมดา คิดราคาเริ่มต้นที่ 305 บาท ในกรณีที่สถานที่จัดส่งและสถานที่ปลายทางอยู่ในพื้นที่เดียวกัน หรืออยู๋ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อาจคิดราคาต่ำกว่า ในขณะที่พัสดุที่เป็นอาหาร ผลไม้สด หรือนำส่งออกต่างประเทศ อัตราค่าบริการจะสูงกว่าปกติเช่นกัน
3. โลจิสโพสต์ (Logispost) เป็นบริการจัดส่งสิ่งของขนาดใหญ่ น้ำหนัก 20 - 200 กิโลกรัม จำกัดขนาดกว้าง x ยาว x สูงที่ 150 x 200 x 150 เซนติเมตร อัตราค่าบริการคิดตามน้ำหนักของสิ่งของและพื้นที่(โซน)การให้บริการส่งของ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 200 บาท หากทั้งต้นและปลายทางอยู่ในโซนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังมีตารางคิดราคาสำหรับสิ่งของบางชนิดโดยเฉพาะ เช่น โทรทัศน์ เตียง คอมพิวเตอร์ อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่อัตราค่าบริการรับฝากส่งสิ่งของ/สินค้าขนาดใหญ่ (ฉบับวันที่ 5 ตุลาคม 2555)
นอกจากบริการขนส่งทั่วไป ทางไปรษณีย์ไทยยังมีบริการเพิ่มเติมที่เราสามารถเลือกใช้ได้ ดังนี้
1. ไปรษณีย์แบบมีหลักฐาน เป็นบริการเสริมที่เราสามารถใช้ควบคู่ไปกับบริการไปรษณีย์ธรรมดาได้ ซึ่งมีประโยชน์คือ ช่วยให้พัสดุที่ต้องการส่งมีการรับรองทางกฏหมาย ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบกระบวนการจัดส่ง และเรียกค่าชดใช้ในกรณีที่พัสดุเสียหายหรือสูญหายได้ มีบริการแยกย่อย ได้แก่
a) ไปรษณีย์ลงทะเบียน สำหรับเอกสารสำคัญ สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุในขั้นตอนรับฝากและนำจ่าย โดยจะคิดอัตราค่าบริการตามไปรษณีย์ธรรมดา เพิ่มค่าธรรมเนียมปฏิบัติการพิเศษ 13 บาท สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ไม่เกิน 300 บาท
b) ไปรษณีย์รับรอง สำหรับเอกสารที่มีความสำคัญในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่มากเท่าประเภทที่ต้องลงทะเบียน สามารถตรวจสอบสถานะได้เช่นกัน แต่ต้องส่งคำร้องผ่านการสอบสวน คิดอัตราค่าบริการตามไปรษณีย์ธรรมดา เพิ่มค่าธรรมเนียมปฏิบัติการพิเศษ 8 บาทสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ไม่เกิน 150 บาท
c) ไปรษณีย์รับประกัน เป็นบริการที่เปิดให้ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะพัสดุได้เกือยทุกขั้นตอน และมีการคุ้มครองมากเป็นพิเศษ คิดอัตราค่าบริการตามไปรษณีย์ธรรมดา เพิ่มค่าธรรมเนียม 15 บาท และค่าเบี้ยประกัน 5 บาทต่อวงเงินประกันทุก 500 บาท แต่ไม่เกินสงเงินสูงสุด 5,000 บาท
2. ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ภายในประเทศ รับฝากสิ่งของสำหรับนำส่งน้ำหนักสูงสุดที่ 20 กิโลกรัม ใช้เวลานำส่ง 2 - 3 วันสำหรับพื้นที่ทั่วไปภายในประเทศไทย หรือภายในวันถัดไปหลังรับฝากของไม่เกินเวลา 16.30 น. สำหรับกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล อัตราบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 32 บาท สำหรับเอกสารบรรจุซอง EMS
3. EMS Super Speed เป็นบริการจัดส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษที่รวดเร็วกว่า EMS ธรรมดา รับฝากสิ่งของน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม จัดส่งถึงสถานที่ปลายทางภายใน 24 ชั่วโมงหลังฝากส่ง โดยหากฝากส่งก่อนเวลา 10.30 น. พัสดุจะถูกนำจ่ายถึงปลายทางภายในเวลา 20.30 น. ของวันเดียวกัน แต่หากฝากส่งในช่วง 10.30 - 16.30 น. พัสดุจะถูกนำจ่ายถึงปลายทางภายในเวลา 13.00 น. ของวันถัดไป อัตราค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 150 บาท
สำหรับบริการไปรษณีย์ต่างประเทศ จะคิดอัตราค่านำส่งขึ้นกับประเทศปลายทาง และมีบริการเพิ่มเติมคล้ายกับบริการไปรษณีย์ในประเทศ เช่น บริการไปรษณีย์แบบลงทะเบียนระหว่างประเทศ, EMS World, Logispost World และการส่งพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ซึ่งมีค่าปฏิบัติการพิเศษสูงกว่าของในประเทศ และมีที่ทำการไปรษณีย์ที่เป็นศูนย์ให้บริการจำกัดเพียงบางแห่งในประเทศไทย เมื่อรับทราบประเทภของบริการเบื้องต้นแล้ว เรายังสามารถคำนวณอัตราค่าบริการผ่านเว็บไซต์ที่นี่ เพื่อความแน่ใจ หรือสามารถสอบถามหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย เองได้อีกด้วย หรือหากผู้ใดมีความสนใจ สามารถเลือกใช้บริษัทจัดส่งไปรษณีย์เอกชนในประเทศไทย เช่น DHL หรือ FedEx โดยขอแนะนำให้ผู้ที่สนใจใช้บริการศึกษารูปแบบการบริการ และสอบถามพนักงานมห้เข้าใจโดยละเอียดเสมอ ไม่ว่าจะเลือกใช้บริการกับองค์กรใด เพื่อให้การขนส่งพัสดุเป็นไปโดยสะดวกและมีประสิทธิภาพ
(4.7.2560)
