บ ประกันภัย

การทำประกันกับ บ ประกันภัยคืออะไรและมีประโยช์อย่างไร

      การทำประกันภัยเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน โดยการเฉลี่ยหรือการกระจายความเสียหายของผู้เอาประกันภัยไปสู่ บ.ประกันภัย และ บ.ประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามที่ได้รับคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยนั้นให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันให้แก่ บ ประกันภัยตามที่ตกลงกันไว้

 

     การประกันภัยมีองค์ประกอบ 3 ส่วนดังต่อไปนี้

  1. ผู้รับประกันภัย ( บ ประกันภัย )
  2. ผู้เอาประกันภัย (ผู้ถือกรมธรรม์)
  3. ผู้รับผลประโยชน์

 

รูปแบบของการประกันภัยจำแนกออกเป็น 2 ประเภทคือ

  1. การประกันชีวิต หมายถึงการประกันต่อความสูญเสียอันเกิดแก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลโดยที่ บ ประกันภัยสัญญาว่าจะมีการจ่ายค่าชดเชยเมื่อเสียชีวิต อาจมีความคุ้มครองอย่างอื่นเพิ่มเติมเช่น การประกันอุบัติเหตุและการสูญเสียอวัยวะ การประกันกรณีทุพลภาพหรือการประกันสุขภาพ
  2. การประกันวินาศภัย แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ การประกันอัคคีภัย การประกันภัยรถยนต์ การประกันภัยทางทะเล และการประกันเบ็ดเตล็ด

 

        การทำประกันภัยจำเป็นต้องผ่านกระบวนการพิจารณาการรับทำประกัน เพื่อผู้รับทำประกัน ( บ ประกันภัย )  จะได้ประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าของผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นบุคคล กลุ่มบุคคลหรือทรัพย์สิน พร้อมกับการกำหนดรายละเอียดความคุ้มครองและเบี้ยประกันภัยด้วย   บ ประกันภัยอาจรับประกันโดยอาจจะแบ่งความเสี่ยงมาส่วนหนึ่งหรือจะปฏิเสธเมื่อเห็นว่าความเสี่ยงนั้นไม่อาจรับได้ หรือ บ ประกันภัยอาจรับประกันภัยโดยเพิ่มอัตราเบี้ยพิเศษเพื่อให้สามารถคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

      ข้อดีของการทำประกันภัยคือ เป็นหลักประกันให้กับครอบครัวในกรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนเวลาอันสมควร หรือเป็นหลักประกันให้กับตัวผู้เอาประกันภัยเองในอนาคตเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในวัยเกษียณเช่นการทำประกันชีวิตแบบบำนาญ หรือสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในยามที่เจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ

 

บ ประกันภัย

 

ข้อเสียของการทำประกันภัยคือ หากผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันไม่ตรงตามกำหนดจะมีผลให้กรมธรรม์ไม่มีผลบังคับและจะไม่ได้รับความคุ้มครองเมื่อมีภัยหรือการสูญเสียเกิดขึ้น หรือในกรณีที่ บ ประกันภัยยอมให้ลูกค้าทำประกันสุขภาพโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพนั้นมักเกิดข้อถกเถียงกันบ่อยๆ เนื่องจากลูกค้าต้องแจ้งประวัติการป่วยให้กับ บ ประกันภัยทราบไม่ควรที่จะปกปิด ยกตัวอย่างเช่นผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่ บ ประกันภัยไม่จ่ายเนื่องจากตรวจพบว่าผู้เอาประกันภัยป่วยเป็นมะเร็งก่อนเสียชีวิตและถือว่าผู้เอาประกันปกปิดข้อมูลให้ถือเป็นโมฆียะ

        การทำประกันภัยเป็นสัญญาต่างตอบแทนที่ถูกต้องตามกฏหมาย และจะมีผลเมื่อคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่รับผิดชอบต่อกัน บ ประกันภัยต้องคุ้มครองผู้เอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในสัญญาเมื่อเกิดความสูญเสีย ส่วนตัวผู้เอาประกันภัยก็มีหน้าที่ชำระเบี้ยประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง

                        (  ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://www.pattanakit.net )

 

(13.8.2560)

 

 



Siirry alkuun